วันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

บทที่1 การขนส่ง

บทที่ 1  ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการขนส่งผู้โดยสารเพื่อการท่องเที่ยว
            การท่องเที่ยวเป็นกิจกรรมที่ต้องมีการเดินทางจากที่อยู่อาศัยประจำไปยังแหล่งท่องเที่ยวเพื่อนเยี่ยมชมความงามทางธรรมชาติและคุณค่าทางวัฒนธรรม จึงต้องอาศัยการขนส่งผู้โดยสารเป็นยานพาหนะในการนำไปยังแหลงการท่องเที่ยวตามต้องการถ้าไม่มีการขนส่งผู้โดยสารที่จะเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยว  นักท่องเที่ยวก็ไม่สามารถเดินเข้าไปท่องเที่ยวยังแหล่งท่องเที่ยวนั้นได้   แต่บางท่านอาจจะเดินทางด้วยเท้าตนเองได้  แต่การเดินเท้าถือเป็นขนส่งชนิดหนึ่ง  แต่เป็นการขนส่งด้วยตัวเอง แต่เราต้องการศึกษาเฉพาะการขนส่งผู้โยสารด้วยอุปกรณ์ขนส่งเท่านั้น  อุปกรณ์ขนส่งผู้โดยสารมีอยู่ 4 ประเภทคือ  1. การขนส่งผู้โดยสารโดยรถยนต์  2. การขนส่งผู้โดยสารโดยรถไฟ 3.การขนส่งผู้โดยสารโดยเรือ   4.การขนส่งผู้โดยสารโดยเครื่องบิน
ความหมายของการขนส่งผู้โดยสาร
ความหมายของการขนส่ง ตามสารานุกรมไทยฉบับราชบัญฑิตสถาน พ.. 2525 ได้ให้ความหมายของการขนส่งไว้ว่า ขนหมายถึงการนำเอาของมากๆจากที่หนึ่งไปไว้อีกที่หนึ่ง ส่วน ส่งหมายถึง การยื่นให้ถึงมือ พาไปให้ถึงที่ เมื่อนำมารวมกันขนส่ง จึงหมายถึง การนำไปและนำมาซึ่งของมากๆจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง
ตามพระราชบัญญัติการขนส่ง พ.. 2497 มาตาร4 ได้ให้ความหมายของการขนส่งไว้ว่า  การขนส่งหมายถึง   การลำเลียงหรือเคลื่อนย้ายบุคคลหรือสิ่งของด้วยเครื่องมืออุปกรณ์การขนส่ง  ซึ่งอุปกรณ์คือยานพหนะที่ใช้ขนส่ง รวมถึงเครื่องทุ่นแรงด้วย
จากความหมายข้างต้นสรุปได้ การขนส่ง หมายถึง การจัดให้มีการเคลื่อนย้ายบุคคล  สัตว์ หรือสิ่งของด้วยอุปกรณ์จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งตามความประสงค์ของมนุษย์
ความหมายการขนส่งของผู้โดยสาร
หมายถึงการจัดให้มีการเคลื่อนย้ายบุคคลด้วยเครื่องมืออุปกรณ์การขนส่งจากที่แห่งหนึ่งตามประสงค์ของบุคคลนั้นๆ การขนส่งผู้โดยสารจะต้องมีองค์ประกอบด้วยลักษณะสำคัญอยู่ 3 ประการคือ
1.     เป็นกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนย้ายบุคคลจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง
2.    เป็นการเคลื่อนย้ายที่ต้องกระทำด้วยอุปกรณ์การขนส่ง ก็คือยานพหนะที่ใช้ในการขนส่งนั่นเอง
3.    เป็นการเคลื่อนย้ายที่ต้องเป็นไปตามความประสงค์ของบุคคลผู้ที่ต้องการขนส่ง
หน้าที่ของการขนส่งผู้โดยสาร
คือการทำหน้ามี่ผลิตบริการเพื่อบำบัดความต้องการของมนุษย์ในการเดินทางจากที่แห่งหนึ่งไปยังอีกแห่งหนึ่งให้เกิดอรรถประโยชน์ด้านเวลาและสถานที่ขึ้น  การขนส่งผู้โดยสารไม่ได้ทำให้ผู้โดยสารที่ขนย้ายเกิดคุณค่าหรืออรรถประโยชน์ด้านรูปเพิ่มขึ้น แต่ผู้โดยสารที่ถูกขนย้ายมีสภาพทางรูปแย่ลงกว่าเดิมหรือเท่าเดิม เช่น คนปกติเมื่อให้บริการขนส่งแล้วเกดไม่สบายขึ้น อาจมีอาการเมารถ เมาเรือ หรือเมาเครื่องบิน หรืออาจเกิดอาการเมื่อยขึ้นระหว่างการให้บริการ
ความสำคัญของการขนส่งผู้โดยสาร
การขนส่งผู้โดยสารมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ เนื่องจากการขนส่งเป็นปัจจัยพื้นฐาน(Infrastructure) อันเป็นรากบานความสำคัญในการพัฒนาประเทศด้านต่างๆ เช่น  ด้านเศรษฐกิจ  สังคม การเมืองและการทหาร เป็นต้น ดังนั้นการขนส่งผู้โดยสารจึงเปรียบเสมือนกุญแจดอกสำคัญที่จะเปิดทางให้ประเทศชาติบรรลุถึงการพัฒนาและความมั่งคั่งตลอดการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างคนในชาติด้วยกันซึ่งความสำคัญองการขนส่งผู้โดยสารพอจะพิจารณาได้ดังต่อไปนี้คือ
1.    ความสำคัญของการขนส่งผู้โดยสารต่อเศรษฐกิจของประเทศ  พอจะสรุปความสำคัญของการขนส่งผู้โดยสารที่มีต่อเศษฐกิจของประเทศได้ดังต่อไปนี้
1.1  ทำให้นักธุรกิจสามารถเดินทางติดต่อค้าขายกัน ได้ทั้งภายในประเทสและระหว่างประเทศ ยิ่งมีการจัดงานมหกรรมแสดงสินค้านานาชาติขึ้นที่ใด การขนส่งจะได้รับขนส่งนักธุรกิจจากทุกมุมโลกไปชมงาน  ทำให้เกิดการค้าขายกันขึ้น
1.2  การขนส่งผู้โดยสารทำรายได้ให้กับประเทศอย่างมหาศาล  เนื่องจากมีผู้นิยมเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น  การขนส่งผู้โดยสารจะขนส่งนักท่องเที่ยวไปยังแหล่งท่องเที่ยวที่ต้องการซึ่งการท่องเที่ยวนี้ทำให้เกิดรายได้ด้านอื่นๆมาด้วย(Multiplier Effect) เช่นรายได้จากที่พักแรม รายได้จากอาหารเครื่องดื่ม รายได้จากจำหน่ายของที่ระลึก  รายได้จากการนำเที่ยว เป็นต้น
1.3  การขนส่งผู้โดยสารช่วยลดปัญหาการว่างงาน เนื่องจากขนส่งผู้โดยสารทำการเคลื่อนย้ายแรงงานจากที่หนึ่งซึ่งต้องการแรงงงานเป็นจำนวนมากเช่น การขนส่งผู้โดยสารขนย้ายแรงงานจากอีสานมายังกรุงเทพ หรือ อุตสาหกรรมอื่นที่ต้องการแรงงานจำนวนมาก
1.4  การขนส่งผู้โดยสารทำให้เกิดการร่วมมือทางเศรษฐกิจและการลงทุน โดยการขนส่งผู้โดยสารช่วยการลงทุนทั้งทางตรงและทางอ้อม การลงทุนทางตรงนั้นการขนส่งผู้โดยสารก็เป็นกิจการหรือธุรกิจหนึ่งที่ต้องการมีการลงทุน  ในขณะเดียวกันก็อาจขนย้ายนักธุรกิจต่างชาติเข้าลงทุนในประเทศอันเป็นการลงทุนทางอ้อม ก่อให้เกิดความร่วมมือในการลงทุนร่วมกันระหว่างการขนส่งผู้โดยสารภายในประเทศกับต่างประเทศซึ่งเป็นการร่วมมือในทางเศรษฐกิจ
1.5  การขนส่งผู้โดยสารช่วยดุลการชำระเงินของประเทศ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขนส่งผู้โดยสารทางอากาศที่นำนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศ จะได้ค่าโดยสารเป็นเงินตราต่างประเทศเข้ามาในประเทศ อีกทั้งยังเป็นการปะหยัดเงินตราต่างประเทศสำหรับผู้โดยสารชาติเดียวกัน
ความสำคัญของการขนส่งผู้โดยสารต่อสังคม
1.    การขนส่งผู้โดยสารช่วยขยายตัวเมือง
2.    การขนส่งผู้โดยสารช่วยลดการบ่งแยกของสังคม
3.    การขนส่งผู้โดยสารช่วยให้มาตรฐานการศึกษาดีขึ้น
4.    การขนส่งผู้โดยสารช่วยให้มาตรฐานการครองชีพดีขึ้น
ความของการขนส่งผู้โดยสารต่อการเมืองและการทหาร
1.    การขนส่งผู้โดยสารช่วยให้เกิดความสามัคคี
2.    การขนส่งผู้โดยสารช่วยให้การปกครองประเทศเป็นไปด้วยดี
3.    การขนส่งผู้โดยสารช่วยให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
4.    การขนส่งผู้โดยสารช่วยสนับสนุนป้องกันประเทสและความมั่นคงของประเทศ
5.    การขนส่งโดยสารเกิดความภาคภูมิใจในชาติ


ปัญหาของการขนส่งผู้โดยสาร
1.    ปัญญาอากาศเป็นพิษ  อุปกรณ์การขนส่งแทบทุกประเภทที่ใช้เครื่องยนต์ชนิดสันดาภายในจักรกล ซึ่งการสันดาปภายในนี้จะต้องใช้เชื้อเพลิงแก๊สโซลีนที่ก่อเกิดภาวะอากาสเป็นพิษ โดยเฉพาะสารตะกั่ว  แก๊สคาร์บอนมอนน๊อกไซด์   แก๊สซัลเฟอร์ไดออกไซด์
2.    ปัญหานำเป็นพิษ  อุปกรณ์การขนส่งทางน้ำทำให้เกิดภาวะน้ำเป็นพิษ  ซึ่งข่าวอยู่เสมอๆ คือการที่น้ำมันเรือรั่วไหล ทำให้น้ำเป็นพิษ  แต่ปัญหาน้ำเป็นพิษสามารถควบคุมได้ถ้าหากมีการป้องกันและมีความระมัดระวังเพียงพอ
3.    ปัญหาการจราจรติดขัด  ปัญหาการจราจรติดขัดนั้นมักเกิดขึ้นจากขนาดของผังเมืองปริมาณของอุปกรณ์การขนส่ง และลักษณะอุปกรณ์การขนส่ง  และลักษณะอุปนิสัยของผู้ใช้บริการขนส่ง
4.    ปัญหาอุบัติเหตุ  เป็นเหตุการณ์เกิดขึ้นโดยไม่คาดฝันอันมาจากการขาดความระมัดระวังและขาดความรอบรู้หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์  โดยธรรมชาติแล้วการขนส่งผู้โดยสารทุกชนิดย่อมเกิดอันตรายได้ทุกเวลา ซึ่งสาเหตุของอุบัติเหตุ  เกิดจากสภาพการขนส่ง  สภาพสิ่งแวดล้อมและผู้ขับขี่ยานพาหนะเอง
5.    ปัญหาการลงทุน  การลงทุนด้านการขนส่งผู้โดยสารต้องใช้เงินจำนวนมากในการจัดหายานพาหนะและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการบริการผู้โดยสารจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง
การบริการขนส่งผู้โดยสาร
การขนส่งผู้โดยสารเป็นการย้ายบุคคล  หรือนักท่องเที่ยวด้วยอุปกรณ์การส่งจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งตามประสงค์  ทำให้มนุษย์สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก  รวดเร็ว ซึ่งการทางการของมนุษย์มีลักษณะที่สำคัญอยู่  3 รูปแบบ คือ การเดินทางภายในตัวเมืองการเดินทางระหว่างเมือง    การเดินทางระหว่างประเทศ และการเดินทางระหว่างประเทศ   จึงทำให้การขนส่งผู้โดยสารพยายามตอบสนองความต้องการใน
1.    การเดินทางทั้งการให้บริการขนส่งผู้โดยสารในตัวเมือง  หมายถึงความพยายามที่จะจัดการขนส่งผู้โดยสารภายในบริเวณชุมชน  ซึ่งอาจเป็นเทสบาลเมืองต่างๆหรือเมืองต่างๆหรือเมืองหลวงก็ได้        เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการทางเศรษฐกิจและสังคม การขนส่งโดยสารในตัวเมืองอาจแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบย่อยคือ การขนส่ง การขนส่งผู้โดยสารไปกลับภายในเมือง   การขนส่งผู้โดยสารจากจากในเมืองไปนอกเมือง  และ การขนส่งผู้โดยสารจากนอกเมืองเข้าสู่ในเมืองจึงต้องมีการสำรวจผู้โดยสาร  (Passenger Survey)  ซึ่งเป็นการหาข้อมูลเกี่ยวกับผู้โดยสารว่าขึ้นรถโดยสารว่ารถโดยสารสายไหน ในเวลาใด ต่อรถได้ที่ไหน เพื่อการสำรวจจัดหาสันทาง  ตารางเดินรถและจำนวนรถที่เหมาะสมในการสำรวจว่าผู้โดยสารนั้นเราถือว่าผู้โดยสาร 1คนขึ้นรถโดยสารแล้วลง1 ครั้ง Passenger trip และผู้โดยสาร1คนขึ้นแล้วลง 3ครั้งก็จะเป็น 3 Passenger  trip ฉะนั้น  Passenger   trip จึงเป็นตัวเครื่องวัดปริมาณขึ้นลงของผู้โดยสารแต่ละคน  ซึ่งอาจมีการใช้ขนส่งผู้โดยสารสารระบบมวลชน(Mass Rapid  Transit  System) ช่วยให้ขนส่งผู้โดยสารได้มากๆและการเดนทางไปได้รวดเร็วเช่นรถไฟฟ้าใต้ดิน  รถรางไฟฟ้า  รถไฟรางเดียว เป็นต้น
2.    การจัดการการขนส่งผู้โดยสารระหว่าเมือง หมายถึงความพยายามที่จะจัดการขนส่งผู้โดยสารระหว่างเมืองต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการทางเศรษฐกิจและสังคมการขนส่ง  ผู้โดยสารระหว่างเมืองนั้นการขนส่งการทางรถยนต์จึงมีความสำคัญมากที่สุด  รองลงมาเป็นรถไฟ  สำหรับการขนส่งทางเครื่องบินมีบทบาทไม่มากนักเนื่องจากค่าโดยสารแพง ผู้โดยสารที่ใช้ส่วนเป็นผู้ที่มีรายได้สูงหรือนักธุรกิจ
3.    การบริการการขนส่งผู้โดยสารระหว่างเมือง  หมายถึง ความพยายยามที่จะจัดการขนส่งผู้โดยสารระหว่างประเทศต่างๆให้มีประสิทธิภาพ  สำหรับขนส่งผู้โดยสารระหว่างประเทศนั้น การขนส่งผู้โดยสารทางเครื่องบินมีบทบาทมากที่สุดถึงประมาณ  90 เปอร์เซ็นต์ ของผู้โดยสารระหว่างประเทศทั้งหมด   รองลงมาการขนส่งทางเรือ   ส่วนการขนส่งผู้โดยสารระหว่างประเทศโดยรถยนต์และรถไฟมีบทบาทน้อย 

ประเภทของการขนส่งผู้โดยสาร
การขนส่งผู้โดยสามารถแบ่งได้เป็น  4 ประเภทใหญ่ๆ คือ
1.    ขนส่งผู้โดยสารด้วยรถยนต์
2.    การขนส่งผู้โดยสารด้วยรถไฟ
3.    การขนส่งผู้โดยสารด้วยเรือ
4.    การขนส่งโดยสารด้วยเครื่องบิน
และยังมีการขนส่งประเภทพิเศษซึ่งเป็นการขนส่งผู้โดยสารด้วยอุปกรณ์ขนส่งผู้โดยสารประเภทพิเศษอื่นๆ เช่น การขนส่งผู้โดยสารกระเช้าไฟฟ้า  การขนส่งผู้โดยสารด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน การขนส่งผู้โดยสารด้วย โฮเวอร์คร๊าฟ เป็นต้น
สรุปบทที่  1
การขนส่งผู้โดยสารทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ตามต้องการ และยังทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกสบาย  ช่วยกระตุ้นให้มีการเดินทางท่องเที่ยว  ซึ่งการขนส่งผู้โดยสารจะมีเครือข่ายทั้งทางบก  ทางน้ำ  ทางอากาศ
            สำหรับความหมายการ ขนส่งผู้โดยสารหมายถึงการจัดการเคลื่อนย้ายบุคคลด้วยเครื่องอุปกรณ์การขนส่งจากที่แห่งหนึ่งไปยังอีกแหล่งหนึ่งตามความประสงค์ของบุคลนั้นๆโดยการขนส่งผู้โดยสารมีหน้าที่ในการสร้างอรรถประโยชน์ด้านเวลาและสถานที่หั้บผู้เดินทางจึงนับได้ว่าการขนส่งผู้โดยสารมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ
ส่วนการบริการขนส่งผู้โดยสารจะมี 3 รูปแบบ คือการให้บริการขนส่งผู้โดยสารในเมือง   การให้บริการขนส่งผู้โดยสารระหว่างเมือง   การให้บริการขนส่งผู้โดยสารระหว่างประเทศ   ซึ่งการให้ขนส่งผู้โดยสารจะแบ่งเป็น 4 ประเภทใหญ่คือ 1. การขนส่งผู้โดยสารด้วยรถยนต์ 2. การขนส่งผู้โดยสารด้วยรถไฟ 3. การขนส่งผู้โดยสารด้วยเรือ  และ 4. การขนส่งผู้โดยสารด้วยเครื่องบิน  
                           
ในด้านวิวัฒนาการถนนที่ให้รถยนต์วิ่งโดยสารนั้น  แต่เดิมถนนเป็นเพียงถนนทางเท้า  โดยทางธรรมชาติที่ได้รับการปรับปรุงเพื่อให้เกิดความสะดวกในการเดินทางพอผ่านได้เท่านั้น เมื่อเกิดความเจริญของรถบดหินที่แตกหักให้เป็นผิวทาง  และขุดร่องคูตามข้างทางเพื่อช่วยในการระบายน้ำ ถนนเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 1,000 ปีมานี้เองเพื่อใช้สำหรับติดต่อระหว่างชุมชน  โดยกษัตริย์ดาริยุสแห่งเปอร์เซีย เป็นผู้สร้างถนนขนาดใหญ่ขึ้นสำหรับติดต่อระหว่างชุมชนเพื่อใช้เป็นทางม้าเร็วส่งข่าวสาร   และระยะเวลาใกล้เคียงกษัตริย์ราชวงศ์จิ้นของจีนก็ได้สร้างถนนใหญ่ตัดผ่านลุ่มแม่น้ำฮวงโฮ เป็นถนนตรงขนาดกว้างถึง 40 วา แต่ใช้สำหรับทหารเดินทางไปปราบกบฏในสมัยโรมันเรืองอำนาจได้สร้างถนนขนาดใหญ่อย่างถาวรให้ติดต่อกันได้ทั่วอาณาจักอันไพศาล  ต่อมาสมัยเมโปเตเมียเจริญรุ่งเรืองก็มีถนนค้าขายระหว่างประเทศสายหนึ่งมีความยาวประมาณ2,800 กิโลเมตร เริ่มจากอ่าวเปอร์เซียผ่านเอเชียตะวันตกเฉียงใต้และเอเชียน้อยไปจรดทะเลเมดิเตอร์เรเนียน  และเมื่อเมโสโปเตเมียเสียอำนาจแก่เปอร์เซีย  ถนนสายนั้นจึงขนานนามว่า ถนนกษัตริย์(Royal Road)  นับเป็นถนนเก่าแก่ที่สุดในโลก  ต่อมาก็ได้วิวัฒนาการปรับปรุงถนนให้เป็นลูกรัง ถนนลาดยาง  และถนนคอนกรีต โดยได้ใช้ความรู้ทางวิศวกรรมศาสตร์เข้าช่วยเพื่อให้ถนนมีสภาพคงทนและสามารถรับน้ำหนักได้มาก อีกทั้งทนต่อสภาพดินฟ้าอากาศ เรียกว่าถนนแบบแมคคาดัม      
    การพัฒนาของการขนส่งทางรถยนต์ได้เจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็วทั้งในปัจจุบันถึงอนาคต  เพื่อช่วยให้สะดวกรวดเร็ว  จากสภาพทางภูมิศาสตร์ของดินแดนแต่ละแห่งของโลกย่อมก่อให้เกิดการขนส่งผู้โดยสารด้วยรถยนต์แตกต่างกันไป  การขนส่งผู้โดยสารด้วยรถยนต์มีความกาวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง   เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์ในด้านความสะดวกสบายและรวดเร็ว  การสร้างถนนหนทางหรือสะพานเป็นงานสร้างสรรค์ทางศิลปะที่รวมพลังทางวิทยาก้าวหน้าไว้ในตัว เช่น การสร้างสะพานแขวน Golden Gate ที่ใหญ่โตอยู่เหนือทางเข้าซานฟาซิโก หรือการสร้าสะพานแขวนพระราม เพื่อข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาในประเทศไทย  ส่วนด้านเครื่องยนต์ในอนาคตคงใช้เครื่องยนต์ชนิดเทอร์ไบน์กาซ์   ซึ่งช่วยให้รถยนต์วิ่งเร็วมีพลังสูงขึ้นและไม่มีการปล่อยไอเสียออก
เหมือนรถรถยนต์ที่ใช้เครื่องเบนซิน
  จากรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อพลิงแล้ว  ในอนาคตคาดว่าจะมีการผลิตรถยนต์ที่ไม่ใช้เชื้อเพลิงเพื่อควบคุมสภาพอากาศ จากหนังสือคู่แข่งธุรกิจฉบับวันที 25 พฤศจิกายน 1 ธันวาคม พ..2534 คอลัมน์ โลกอนาคตรถยนต์เลิกใช้น้ำมัน คือ  สำนักงานที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีประจำสถานเอกอัคราชทูตไทย   กรุงวอชิงตัน ดี.ซี แจ้งว่า ประมาณ 3-4 ปีจากชาวอเมริกันหลายล้านคนขับใช้พลังงานแทนใช้น้ำมันเชื้อเพลิง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น